ชื่อวิทยาศาสตร์ : Casearia grewiifolia Vent.
ชื่อเรียกอื่น :
ก้วย ผีเสื้อหลวง สีเสื้อหลวง (ภาคเหนือ), ขุนเหยิง บุนเหยิง (สกลนคร), คอแลน (นครราชสีมา), ตวย (เพชรบูรณ์), ตวยใหญ่ ตานเสี้ยน (พิษณุโลก), ผ่าสาม (นครพนม, อุดรธานี)
ชื่อวงศ์ :
FLACOURTIACEAE
ลักษณะ :
ไม้ต้นขนาดเล็ก ผลัดใบ สูง 5-15 ม. ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายแหลม โคนมนกว้าง มักเว้าเล็กน้อยที่รอยต่อก้านใบ ขอบจักถี่ แผ่นใบด้านบนเกลี้ยงหรือมีขนเล็กน้อยที่เส้นกลางใบ ด้านล่างมีขนนุ่มทั่วไป ดอกมีจำนวนมาก ออกเป็นกระจุกเล็กๆ ตามง่ามใบที่ใบร่วงไปแล้ว ดอกสมบูรณ์เพศ สีขาวหรือเหลืองอมเขียว กลีบเลี้ยงเล็ก ไม่มีกลีบดอก เกสรเพศผู้ 8-10 อัน ผลมีเนื้อ รูปไข่ ผิวเรียบ ผนังหนา สุกสีเหลือง เนื้อหุ้มเมล็ดสีแสด
การกระจายพันธุ์ :
พบในป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณและป่าดิบทั่วทุกภาค ความสูงจากระดับน้ำทะเลจนถึงประมาณ 1,200 เมตร ต่างประเทศพบในพม่า ไทย ภูมิภาคอินโดจีนและภูมิภาคมาเลเซีย
ช่วงเวลาการออกดอก :
เดือนมกราคม ถึง กุมภาพันธ์


ประโยชน์ :
ตำรายาไทยใช้ ราก แก้ท้องร่วง แก้ตับพิการ (ความผิดปกติของตับ) เปลือก บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ดอก แก้ไข้ ใบและดอก แก้พิษที่เกิดจากการติดเชื้อ ใบ แก้โรคผิวหนังผื่นคันที่มีตัว (เช่น กลาก เกลื้อน หิด) หรือผสมกับใบยาสูบ มวนสูบแก้ริดสีดวงจมูก (โรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นในจมูก ทำให้หายใจขัด มีฝีหนองขึ้นในจมูก โพรงจมูกอักเสบ) หุงเป็นน้ำมันทาบาดแผลและผิวหนังติดเชื้อโรค เมล็ด แก้ริดสีดวงทวาร และเบื่อปลา