ชื่อ : รสสุคนธ์ หรือ รสสุคนธ์ขาว

ชื่อสามัญ : Tetracera loureiri, Dillenia

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tetracera loureiri (Finet & Gagnep.) Pierre ex W. G. Craib

ชื่อวงศ์ : DILLENIACEAE

ชื่อท้องถิ่น :รสสุคนธ์ขาว เสาวคนธ์ เสาวรส มะตาดเครือ (กรุงเทพมหานคร), ลิ้นแรด (อุบลราชธานี), ลิ้นแฮด (ยโสธร), รสสุคนธ์ (สุรินทร์), เถากะปดใบเลื่อม (ประจวบคีรีขันธ์), ปดน้ำมัน (ปัตตานี), บอระคน เถาอรคน อรคน (ตรัง), สุคนธรส มะตาดเครือ ย่านปด อรคนธ์ ปดขน (นครศรีธรรมราช), ปดคาย ปดเลื่อม (สุราษฎร์ธานี), สับปละ (นราธิวาส), ปะหล่ะลือแล็ง (ปัตตานี), กะปด กะป๊ด ป๊ด ย่านป๊อด (ภาคใต้)

 

ลักษณะ

ต้นรสสุคนธ์จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีเนื้อไม้แข็ง ไม่ผลัดใบ เป็นไม้เถามีเนื้อแข็ง เลื้อยได้ไกล 5-8 เมตร กิ่งอ่อนมีขนขุยสีน้ำตาลแก่ปกคลุมอยู่ แตกกิ่งเลื้อยทอดยาว เปลือกเถามีสีเขียวเมื่อยังอ่อน เมื่อเถาแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเทา เปลือกบางเรียบ เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม มีแสงรำไร และที่โล่งแจ้ง ทนความแห้งแล้งได้ดี พบขึ้นได้ทั่วไปตามป่าธรรมชาติ ป่าดิบแล้ง ป่าผลัดใบ ป่าละเมาะ ป่าชื้นทางภาคใต้ หรือป่าเบญจพรรณและป่าชายหาดหรือชายฝั่งทะเล

ใบรสสุคนธ์มีใบเป็นใบเดี่ยว ใบออกเรียงแบบสลับกัน ถึงรูปขอบขนาน ใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร ที่โคนใบและปลายใบมนถึงแหลม ปลายใบโต โคนใบเรียว ขอบใบเป็นจักห่าง ๆ
เนื้อใบค่อนข้างหนา มีสีเขียวเข้ม เส้นใบชัด ลักษณะคล้ายลิ้นวัว ผิวใบด้านบนเห็นเป็นเส้นแขนงใบเป็นร่อง ส่วนผิวใต้ท้องใบสากคาย หลังใบมีสีเขียวเข้ม และมีก้านใบยาวประมาณ 6-1 เซนติเมตร

 

ดอกรสสุคนธ์ออกดอกเป็นช่อแบบแยกแขนง ออกดอกตามซอกใบหรือปลายยอด ช่อดอกมีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางของดอกเมื่อบานประมาณ 8 เซนติเมตร มีดอกย่อยจำนวนมาก
มีลักษณะทรงกลม สีขาว มีอยู่ 5 กลีบ มักหลุดร่วงได้ง่าย ดอกมีกลิ่นหอม และมักบานไม่พร้อมกัน เมื่อดอกบานจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้สีขาวจำนวนมากคล้ายเส้นด้ายกระจายออกเป็นพุ่มกลมคล้ายดอกกระถิน และมีกลีบเลี้ยงอยู่ 5 กลีบ ดอกรสสุคนธ์จะส่งกลิ่นหอมแรงในตอนกลางคืน สามารถออกดอกได้ปีละหลายครั้งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และจะออกดอกมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว
หรือในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์

 

ผลรสสุคนธ์ลักษณะของผลเป็นรูปไข่เบี้ยว ผลมีสีเขียว มีขนาดประมาณ 7 เซนติเมตร และมีจะงอยที่ส่วนปลาย เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็นแนวเดียว ภายในผลจะมีเมล็ดสีดำอยู่ 1-2 เมล็ด

 

เมล็ดรสสุคนธ์เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่สีดำ และมีเยื่อหุ้มเมล็ดหรือเรียกว่ารกสีแดงสด

ประโยชน์

  1. ประโยชน์ของต้นรสสุคนธ์หลัก ๆ แล้วคือการนำมาปลูกไว้เป็นไม้ดอกไม้ประดับที่ให้ทั้งความสวยงามและกลิ่นหอม โดยนิยมปลูกไว้เป็นไม้เลื้อยคลุมซุ้มเป็นร่มเงาหรือพันรั้วต่าง ๆ ให้สวยงาม
    และยังสามารถปลูกได้ง่าย มีความแข็งแรงทนทาน ต้องการความชื้นเล็กน้อย เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่มและกลางแดด และดอกสามารถออกดอกได้เกือบทั้งปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลัก
  2. เถารสสุคนธ์สามารถนำมาใช้ทำเป็นเชือกมัดหลังคาหรือใช้มัดไม้ก่อสร้าง ส่วนเถาขนาดใหญ่ก็สามารถนำมาทำเป็นชิงช้าให้เด็กได้
  3. ใบแก่รสสุคนธ์สามารถนำมารูดปลาไหล เพื่อให้เมือกในตัวปลาไหลหลุดออกได้ดีเช่นเดียวกับใบข่อย
  4. เนื่องจากใบมีความสากจึงสามารถนำมาใช้ทดแทนกระดาษทรายได้
  5. ไม้จากต้นหรือเถาใช้ทำเครื่องจักสานและเครื่องใช้สอยต่าง ๆ
  6. ต้นรสสุคนธ์เป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกตามบ้านเรือน โดยมีความเชื่อว่า ผู้ปลูกจะเป็นผู้ดีมีความงามบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ มีชื่อเสียงดีเหมือนดังเถารสสุคนธ์ที่เลื้อยไปได้ไกล

 

แหล่งอ้างอิง

medthai.com/รสสุคนธ์/